ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ขอไทยดูแลชาวอเมริกันที่อาจจะเดินทางมากับผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบตามตะเข็บชายแดน
ที่บริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กองกำลังทหารพราน ยังคงตรึงกำลังตามช่องทางธรรมชาติต่าง ๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยและคุมเข้มสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่เมื่อวานนี้ในพื้นที่ได้เปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าเป็นวันแรก แต่ก็ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่มีผู้ประกอบการรายใดขนส่งเครื่องอุปโภคบริโภคข้ามไปส่งยังฝั่งประเทศเมียนมา ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าในช่วงนี้ เพราะเป็นห่วงสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศเมียนมา
อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยืนยันว่าการเปิดจุดผ่อนปรนฯดังกล่าว เป็นไปตามกำหนดที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
ขณะที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา รวมถึงมาตรการดูแลประชาชนสหรัฐอเมริกาที่อาจจะเดินทางมากับผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ ตลอดจนแนวทางการให้ความช่วยเหลือของจังหวัด ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัด ยืนยันมีมาตรการรับมือและช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว
และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบข้ามฝั่งมาไทยอีกเลย จากที่มีผู้บาดเจ็บขอขึ้นฝั่งมาตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา จำนวน 7 คน ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสบเมย
เบื้องต้นมีผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบเหลืออยู่ที่ตะเข็บชายแดนไทยประมาณ 200 คน ซึ่งไทยได้ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่วนผู้ที่สมัครใจเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้ไปส่งที่ฝั่งเมียนมาเรียบร้อยแล้ว