เหนือ 3 จังหวัด ‘เชียงใหม่-น่าน-ตาก’ เสี่ยงเกิดไฟป่าสูงสุดต่อเนื่องสัปดาห์ที่ 3 ส่วนเชียงราย-แม่ฮ่องสอนค่า PM2.5 พุ่งปรี๊ด
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ข้อมูลภาพจากดาวเทียมฮิมาวาริ (Himawari) และดาวเทียมอื่นๆ ของระบบการติดตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ของวันที่ 30 มีนาคม 2564 ในช่วงเวลา 09.00 น. พบว่าในพื้นที่ของภาคเหนือพบค่าคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) โดยเฉพาะในพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย ที่พบค่า AQI สูงถึง 247 ตามด้วยแม่ฮ่องสอน ที่มีค่า AQI อยู่ที่ 113 ในส่วนของภูมิภาคอื่นๆ พบค่าคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) กระจายตัวอยู่ในบางพื้นที่ สลับกับคุณภาพอากาศปานกลาง (สีเหลือง) และคุณภาพอากาศดี (สีฟ้า สีเขียว) ที่ปกคลุมเกือบทั่วภูมิภาค รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย
ส่วนข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้
ทั้งนี้ GISTDA จะติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานหลักและที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ รวมทั้งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามสถานการณ์ PM2.5 อย่างดีที่สุด เพื่อให้ทุกท่านรับทราบข้อมูลอย่างทันท่วงที โดยท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://pm25.gistda.or.th/
นอกจากนี้ ยังพบว่าข้อมูลภาพจากดาวเทียมระบบ MODIS เฝ้าติดตามสถานการณ์ความเสี่ยงพื้นที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง จากภาพแสดงให้เห็น 17 จังหวัดภาคเหนือที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในช่วง 29 มีนาคม-4 เมษายน 2564 โดยพบ 3 จังหวัดมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟป่า ได้แก่ #เชียงใหม่ #น่าน #ตาก ตามลำดับ ซึ่งเป็น 3 พื้นที่เสี่ยงสูงสุดติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ส่วนอีก 14 จังหวัดที่เหลือยังคงมีพื้นที่เสี่ยงกระจายอยู่โดยรอบ เนื่องจากสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นและสภาพพื้นผิวแห้งแล้งอาจจะทำให้เกิดประกายไฟได้ง่าย โดยพื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปวางแผนเพื่อการจัดการเชื้อไฟ และจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
GISTDA ยังติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://fire.gistda.or.th
รายงานข่าวระบุว่า จากภาพจะเห็นได้ว่าจุดความร้อนทั่วทั้งประเทศที่เพิ่มขึ้นนั้นมีการกระจายตัวในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังคงกระจุกตัวอยู่มากในบริเวณภาคเหนือเช่นเคย สำหรับจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านได้กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยพบมากในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 3,446 จุด รองลงมาเป็นสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 2,517 จุด และราชอาณาจักรกัมพูชา 928 จุด ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของจุดความร้อนที่พบจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองและหมอกควันที่ลอยข้ามแดนเข้ามาได้
ทั้งนี้ GISTDA ยังติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่ ท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://fire.gistda.or.th
#จิสด้า #gistda #จิสด้าก้าวสู่ปีที่21 #ไฟป่า #หมอกควัน #คุณภาพชีวิต #วิเคราะห์ข้อมูล #มลพิษทางอากาศ #จุดความร้อน #คุณภาพอากาศ #ค่าฝุ่นละออง #ฝุ่นพิษวิกฤติชาติ #รู้สู้ภัยพิบัติ