แหล่งข่าว ผอ.กองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้ร่อนหนังสือร้องเรียนสื่อมวลชนว่า ตามหนังสือที่ มส.75303 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เรื่องรายงานการเข้าดำเนินการก่อนสัญญาจ้างว่า ปัจจุบันตนกำลังได้รับการกดดันจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลที่ตนสังกัดอยู่
สืบเนื่องมาจาก ทางอบต.ได้มีการโครงการก่อสร้างถนน คสล.แห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านแม่สุริน หมู่ 3 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน โดยมี หจก.แห่งหนึ่ง เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างถนนเส้นทางดังกล่าว ตามสัญญาจ้างที่ 23/2564 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 วงเงินค่าจ้าง 300,000 บาท เริ่มต้นสัญญาจ้างวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 และสิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ระยะเวลา 30 วัน
ข้อเท็จจริงทางเจ้าหน้าที่กองช่าง ได้รับแจ้งการเข้าดำเนินการก่อสร้างก่อนทำสัญญาจ้าง โดยทางสมาชิก อบต.ในพื้นที่บ้านแม่สุริน ได้ส่งภาพการทำงานระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2563 ทางกองช่างได้สั่งให้ผู้ช่วยนายช่างโยธา สั่งให้ หจก.ดังกล่าว หยุดการก่อสร้าง แต่เป็นการสั่งด้วยวาจา ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 แต่ทาง หจก.ดังกล่าว ยังทำงานต่อจนเสร็จในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563
ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ได้มีการประชุมผู้บริหารและพนักงาน ในการประชุมประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 จึงแจ้งให้ผู้บริหารในที่ประชุมทราบว่า ผู้รับเหมาได้เข้าดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมถนน คสล.หมู่ 3 บ้านแม่สุริน แล้วโดยที่ยังไม่ได้ทำสัญญาจ้างตามระเบียบการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ.2560 รวมถึงผู้รับเหมาไม่ได้มีการแจ้งการเข้าดำเนินการก่อสร้างแต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบพัสดุ ฯ และต่อมาในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ในส่วนของกองช่าง ได้รับสำเนาสัญญาจ้างก่อสร้าง เลขที่ 23/2564 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 และสำเนาคำสั่งที่ 424/2563 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เป็นคำสั่งแต่ตั้งเป็นผู้ควบคุมงานจ้างและให้ควบคุมงานจ้างตามอำนาจหน้าที่
ในการนี้ เป็นการทำงานเสร็จก่อนทำสัญญาจ้าง ผู้ควบคุมงานจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ควบคุมงานตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 178 ( 1 ) (2 ) (3 ) ดังนั้นในนามของผู้ควบคุมงานจ้างตามคำสั่งที่ 424/2563 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 นั้นจึงบันทึกเสนอต่อคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างเพื่อตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ ในส่วนของการบริหารสัญญาจ้างต่อไป
แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวอีกว่า จากรูปถ่ายที่ได้รับ พบว่าหินและกรวดที่ใช้ในการก่อสร้าง ไม่ได้มาตรฐานตามที่ กำหนด และไม่มีการล้างทำความสะอาดก่อนก่อสร้างอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางนายกอบต.คนดังกล่าว ได้ทำหนังสือถึง ผอ.กองช่าง ระบุว่า เป็นโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาให้ราษฎร หมู่ที่ 3 คือโครงการซ่อมแซมถนนเพื่อการเกษตร ต้องเป็นไปตามระเบียบพัสดุ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าผู้รับจ้างเข้าไปดำเนินการก่อนทำสัญญาหรือไม่ หากเป็นข้อเท็จจริงเหตุใดช่างควบคุมงานจึงไม่รายงานเหตุดังกล่าวให้กับผู้บริหารทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เหตุใดช่างจึงปล่อยให้ล่วงเลยระยะเวลาจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 และถึงค่อยรายงาน ซึ่งอาจทำให้ก่อเกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน เนื่องจากปล่อยให้มีการลงนามในสัญญาจ้างและผู้รับจ้างได้ดำเนินการตามสัญญาแล้ว หากพบว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อ จนทำให้ราชการเสียหายให้ดำเนินการทางวินัยทันที
สำหรับกรณีดังกล่าว ก่อนหน้านั้นมีการเจรจาระหว่างผู้รับเหมา กับนายก อบต.ว่า จะหาทางออกด้วยการให้ผู้รับเหมาออกเงินค่าจ้างเองทั้งหมด 3 แสนบาท เพื่อตัดปัญหาและไม่ส่งผลกระทบต่อตัวนายกอบต.แต่มาภายหลังได้มีการกลับคำและหันมากดดัน ผอ.กองช่างให้รับเรื่องดังกล่าว พยายามกดดันให้ทำจากผิดทำให้เป็นถูก แต่ทาง ผอ.กองช่าง ไม่ยอม เนื่องจากเห็นว่าเป็นการการะทำผิดและมีโทษทางวินัยและอาญาอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ในพื้นที่ อ.ขุนยวม เคยมีเรื่องในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว และนายก อบต.แห่งหนึ่ง ได้ถูกปปช.ชี้มูลมีความผิดชัดเจน ในการก่อสร้างอาคารก่อนหน้าที่จะมีการทำสัญญาจ้างกับผู้รับเหมา ซึ่งอยู่ระหว่างดิ้นรนอุทธรณ์เอาตัวรอด แต่กระนั้น ทางเจ้าหน้าที่ ปปช.ระบุว่า ถึงจะใช้เส้นดิ้นรนอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเป็นความผิดสำเร็จและมีหลักฐานพยานทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสาร ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุดพ้นชะตากรรม แต่อาจจะมีเส้นที่ประวิงเวลาในยาวนานออกไปแค่นั้น