เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง KNU ที่กลายเป็นผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบของกองกำลังกะเหรี่ยงและทหารเมียนมา พยายามขับเรือหางยาวติดธงขาวสัญลักษณ์ทางการแพทย์ ล่องมาตามแม่น้ำสาละวิน เพื่อขอขึ้นฝั่งบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดนไทย – เมียนมา เขตตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่กลับถูกทหารประจำจุดผ่อนปรนปฏิเสธตามหลักความมั่นคงและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ก่อนที่ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบจะขับเรือล่องไปตามลำน้ำ
จากนั้นไม่นานญาติของกลุ่มผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ ได้ประสานไปยังทีมแพทย์ของโรงพยาบาลสบเมย เพื่อขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้นำผู้บาดเจ็บและญาติชาวกะเหรี่ยงขึ้นฝั่งไปตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่โรงพยาบาลสุขภาพตำบลแม่สามแลบ ซึ่งจากการตรวจสอบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 3 คน และหญิง 4 คน มีทั้งที่บาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดและไฟคลอก จากนั้นทีมแพทย์ส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสบเมย
ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบได้เปิดเผยผ่านล่ามว่า ขอให้รัฐบาลไทยเห็นใจให้การช่วยเหลือ หากอาการหายเป็นปกติและสถานการณ์ในพื้นที่สงบลงก็จะกลับภูมิลำเนาทันที
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยภายหลังประชุมทางไกลผ่านระบบ Video conference กับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้สั่งการให้พื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา โดยจะช่วยเหลือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบตามหลักสิทธิมนุษยชน หากมีผู้บาดเจ็บจากการปะทะเข้ามาขอความช่วยเหลือก็พร้อมให้การรักษา ถ้าสถานการณ์รุนแรงขึ้นได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวแต่ยังไม่ได้กำหนดพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบส่วนใหญ่ทยอยเดินทางกลับพื้นที่เดิมแล้วเหลือเพียงบางส่วนที่ยังอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเมียนมา หรือ AAPP รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมจากเหตุม็อบต่อต้านกองทัพเมียนมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 510 คนแล้ว นับตั้งแต่กองทัพเมียนมา ก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ภายใต้การนำของ นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจมีมากกว่านี้
ขณะที่เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ออกมาเรียกร้องอีกครั้ง ขอให้ประชาคมโลกร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อกดดันรัฐบาลทหารเมียนมา ให้ยุติการใช้ความรุนแรง รวมถึงเร่งฟื้นคืนระบอบประชาธิปไตยให้กลับสู่ประเทศโดยเร็ว