ต่างประเทศ
ชาวไทยใหญ่ร่อนแถลงการณ์หลังทหารเมียนมาร์โจมตีกระทันหัน
วันพฤหัสบดี ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 13.07 น.
คลิกที่นี่
ไทยใหญ่โวย กองทัพพม่า ส่งกำลังทหารเข้าโจมตีฐานที่มั่น ในรัฐฉานตอนเหนือ พื้นที่ เมืองตุ๋ง อ.สีป้อ จ.จ๊อกแม ส่งผลให้มีการสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างหนัก ขณะที่ชายแดนด้านติดแม่ฮ่องสอน ทหารพม่าได้ถูกลอบซุ่มโจมตี ส่งผลให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน RCSS/SSA ได้ออกแถลงการณ์ ประณามการกระทำของทหารพม่า ที่ละเมิดข้อตกลง สนธิสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศ ( NCA ) เข้าโจมตี ฐานที่มั่นของทหารไทยใหญ่ พื้นที่ บ้านคายเสม และ ป๋างคา ต.เมืองตุ๋ง อ.สีป้อ จ.จ๊อกแม รัฐฉานภาคเหนือ ทำให้กระทบต่อประชาชนในพื้นที่และอาจจะส่งผลให้มีการสู้รบเกิดขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ อีกต่อไป รวมไปถึงทำให้ ข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศต้อง โมฆะและชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่าง ๆ จะไม่มีความเชื่อมั่นต่อพม่าในที่สุด
1.เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ทหารพม่า จำนวน 4 กองพัน กำลังประมาณ 300 นาย เข้าโจมตีฐานที่มั่นกองทัพแห่งรัฐฉาน พื้นที่บ้านคายเสม ต.เมืองตุ๋ง อ.สีป้อ จ.จ๊อกแม และต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ทหารพม่าได้เข้าโจมตี ฐานที่มั่นกองทัพแห่งรัฐฉาน พื้นที่ บ้านป๋างคา ต.เมืองตุ๋ง อ.สีป้อ จ.จ๊อกแม โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการปะทะอย่างหนัก
2.จากการยึดอำนาจการปกครองประเทศ ของกองทัพพม่า ทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศลุกขึ้นมาประท้วงทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งขณะที่ทุกฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธี และแก้ไขความยากลำบากในหลาย ๆ ด้านอยู่นั้น กองทัพพม่ากลับส่งกำลังเข้าเปิดการสู้รบในพื้นที่ชนบททำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต้องประสบกับความทุกข์ยาก ลำบากมากยิ่งขึ้น
3.หากกองทัพพม่าไม่ประสานงานหรือแจ้งให้กับทางกองทัพแห่งรัฐฉาน ( RCSS/SSA ) ให้ทราบล่วงหน้า และทำการส่งทหารเข้ามาในพื้นที่ควบคุมของเรา เข้าทำการกวาดล้างหรือเข้าทำการควบคุมพื้นที่ และทำการโจมตีกองทัพรัฐฉานอีกนั้นการสู้รบก็คงจะรุนแรงและขยายพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง
4.ในการที่กองทัพพม่าส่งทหารเข้ามาโจมตีที่ตั้งของฝ่ายเรา เช่นนี้ ถือว่ากองทัพพม่าได้ทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ ( NCA ) ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นระหว่างสองฝ่ายลดน้อยลงและเสื่อมสลายไปในที่สุด
ขณเดียวกันชาวไทยใหญ่พื้นที่ต่างๆ ได้ออกมาชุมนุมประท้วงการทำรัฐประหารของทหารเมียนมาร์ โดยเฉพาะที่ทะเลสาอินเลได้รวมตัวกันทางเรือ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในพม่า โดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนที่ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อเมื่อ 9 ก.พ.64 เวลาประมาณ 08.00 น. ได้มีเหตุทหารพม่า ฐานที่มั่นตรงข้ามดอยผาตั้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เหยียบกับระเบิดที่ถูกลอบนำมาวางไว้ บริเวณเส้นทางลงสู่ลำห้วย ขณะจะไปตักน้ำ ทำให้ทหารพม่า เสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตรับผิดชอบของกองพลน้อยที่ 5 กะเหรี่ยงอิสระ KNU ส่งผลให้ทหารพม่าที่อยู่ประจำฐานดังกล่าว ได้ทำการยิงเคลียร์พื้นที่รอบ ๆ ฐานที่มั่นนานกว่า 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ราษฎรในฝั่งไทยพากันตระหนกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าว ทางกองกำลัง KNU ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ( KNPP) มองว่าอาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์จากมือที่ 3 เพื่อสร้างความขัดแย้งระหว่างทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยก็เป็นได้
หลังเกิดเหตุ ทางด้านทหารพม่า ได้มีการส่งกำลังเสริมเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 60 คน เข้ามายังพื้นที่ดังกล่าวเกิดเหตุปะทะ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.พ.64 กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNU สังกัด กองพล 5 ได้ออกคำสั่งห้ามทหารพม่า เคลื่อนย้ายกำลังออกนอกที่ตั้งเด็ดขาด หากฝ่าฝืน จะใช้อาวุธตอบโต้ ขณะที่ทหารพม่า บางหน่วย ครบรอบต้องรับเสบียงอาวุธและอาหารอาจจะต้องมีการเดินทางออกนอกฐานที่มั่น ซึ่ง อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดการปะทะกันขึ้นมาก็เป็นได้
คลิกที่นี่