สนามข่าว 7 สี – หญิงคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไปกับลูกชาย ไปเจอคนขี่รถตกข้างทางหวังจะเข้าไปช่วย แต่กลับถูกคนขับทำร้ายร่างกาย คนก่อเหตุอ้างไม่ได้ทำร้าย แค่ผลัก ส่วนปมเหตุเพราะกลัวหญิงคนดังกล่าวแจ้งตำรวจจับข้อหาเมาแล้วขับ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 02.00 น. วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนบ้านหัวน้ำแม่สะกึด ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน มากับลูกชาย มาเจอรถตกไหล่ทางจึงจอดรถสอบถาม ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ แต่จังหวะนั้นกลับถูกชายอายุ 38 ปี เข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอ ชกเข้าที่ท้ายทอยจนล้มลงกับพื้น ไม่พอชายคนดังกล่าวยังจับศีรษะเธอโขกกับพื้นถนน แถมพยายามดึงผ้าถุงของเธออีก สภาพบาดเจ็บ ตอนนี้ร่างกายบอบช้ำเดินแทบไม่ไหว รู้สึกเวียนศีรษะอยู่ตลอดเวลา ยืนยันจะเอาเรื่องชายที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ด้าน ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน เรียกชายอายุ 38 ปี มาสอบปากคำ เจ้าตัวสารภาพ วันเกิดเหตุดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเมามาก จากนั้นก็จะขับรถเข้าไปในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน โดยได้ถอยรถลงไหล่ทาง ซึ่งเป็นร่องลึกจนล้อหลังลอยไม่ติดพื้นที่ จังหวะนั้นผู้เสียหายกับลูกขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี แถมผู้เสียหายยังโทรศัพท์แจ้งกู้ภัย แจ้งตำรวจ ก็ตกใจมาก กลัวจะถูกตำรวจจับข้อหาเมาแล้วขับ จึงผลักผู้เสียหายล้มลงไป จากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าทำอะไรลงไปบ้าง ก่อนจะวิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุ
ส่วนประเด็นสติกเกอร์ของกองบัญชาการกองทัพไทยนั้น ผู้ก่อเหตุชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพรับเหมาเดินสายสื่อสาร และรับงานให้หน่วยทหารหน่วยหนึ่งในภาคเหนือ ซึ่งเหตุที่ต้องติดสติกเกอร์ก็เพื่อผ่านด่านตรวจของหน่วยทหารในการผ่านเข้า-ออก แต่ตอนหลังตนไม่ได้ทำงานให้กับหน่วยทหารแล้ว (วันนี้จึงได้ทำการแกะสติกเกอร์ออกจากรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)