ยังต้องแก้ไขต่อเนื่องสำหรับปัญหาฝุ่นควัน ล่าสุด กองทัพภาคที่ 3 เร่งแก้ฝุ่นควันในพื้นที่ 17 จังหวัด หลังค่า PM 2.5 เริ่มวิกฤต
วันที่ 29 มกราคม 2564 พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานประชุมแก้ไขปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานผ่านระบบ VTC ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ทั้งนี้ จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือเช้านี้ พบว่ามีค่า PM 2.5 ,PM 10 และค่า AQI อยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยวันนี้พบจุดความร้อนกว่า 89 จุด โดยเป็นพื้นที่อนุรักษ์ 12 จุด พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 25 จุด และพื้นที่ สปก . จำนวน 13 จุด
รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเป็นหน่วยงานที่จะต้องช่วยกันในการขับเคลื่อนภารกิจการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองประจำปี 2564 ร่วมกับส่วนราชการในระดับจังหวัด เพื่อระดมเครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ กำลังพลมาช่วยกันแก้ไขปัญหา เนื่องจากรัฐบาลและกองทัพบกมีความห่วงใยต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่หากค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไฟป่าหมอกควัน และค่าฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานขณะนี้ เป็นปัญหาสำคัญซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งการเผาป่า โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือให้งดการเผา เพื่อไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองจนเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะหากมีค่า AQI อยู่ในระดับสูงเกิน 180 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดต้องเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที ทั้งการระดมเครื่องมือฉีดพ้นละอองน้ำในอากาศ เพื่อให้ฝุ่นละอองตกลงพื้นที่โดยทันที
สำหรับสถานการณ์จุดความร้อน 17 จังหวัดภาคเหนือ เมื่อเปรียบเทียบปี 2563 – 2564 ห้วงตั้งแต่ 1 – 28 มกราคม 2564 พบว่าปริมาณจุดความร้อนในปี 2564 ลดลง 60.35 % จากค่าสถิติพบว่าจังหวัดที่มีจุดความร้อนสูงสุด 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปางและจังหวัดตาก โดยพบมากในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติและเขต สปก.
ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat