KNU ยังเกาะติดฐานด๊ากวินเหนียวแน่น ทหารเมียนมายิงอาวุธหนักป้องกันฐานที่มั่นตนเอง หวั่นทหารกะเหรี่ยงบุกยึดฐาน
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม แหล่งข่าวระดับสูงกองกำลังกะเหรี่ยงเปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ว่ากองกำลังติดอาวุธสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU ยังคงเกาะติดฐานที่มั่น ฐานด๊ากวินของเมียนมา ใช้ยุทธวิธีหลอกล่อให้ทหารเมียนมายิงอาวุธหนักเข้าใส่ โดยให้พลซุ่มยิงระยะไกล (สไนเปอร์) ของทหารกะเหรี่ยงทำการยิงทหารเมียนมาที่เคลื่อนไหวออกจากที่กำบัง โดยในห้วงที่ผ่านมา ทหารเมียนมาได้ใช้โดรนติดกล้องอินฟราเรดสังเกตการณ์รอบฐานที่มั่น และถูกพลซุ่มยิงระยะไกล ของทหารกะเหรี่ยง KNU ยิงโดรนตกไปแล้ว 2 ลำ
แหล่งข่าวจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU เปิดเผยต่อไปว่า สถานการณ์ของทหารเมียนมาในฐานด๊ากวิน ริมแม่น้ำสาละวิน กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 340 กำลังตกอยู่ในภาวะตึงเครียดและขาดแคลนเสบียงอาหาร รวมไปถึงอาวุธและกระสุน เนื่องจากขาดการส่งกำลังบำรุง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ทหารเมียนมาได้มีการใช้อาวุธในการตอบโต้และป้องกันฐานที่มั่นไปแล้วจำนวนมาก ขณะที่การส่งเสบียงบำรุงกำลังและอาวุธยุทธภัณฑ์ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากทางทหารกะเหรี่ยงได้ปิดกั้นการส่งเสบียงบำรุงกำลังและอาวุธยุทธภัณฑ์โดยสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้ ทหารเมียนมาฐานด๊ากวินได้ยิง ค.60 มม. และ ค.81 มม. เข้าใส่เป้าหมายที่คาดว่าทหารกะเหรี่ยง KNU เคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 22 นัด ซึ่งการยิงอาวุธปืน ค.ดังกล่าว ไม่กระทบต่อทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูแต่อย่างใด
วันเดียวกันนี้ พันเอก ประสาน แสงศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร เดินทางมาติดตามสถานการณ์ และตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจให้กับราษฎรบ้านท่าตาฝั่ง หมู่ 7 ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ โดย นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอแม่สะเรียง มอบหมายให้ นายตวงสิทธิ์ ประทินสุขอำไพ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง จัดชุดปฏิบัติการอาสาสมัครรักษาดินแดนร่วม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 สาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียง เข้าร่วม คณะได้จัดครัวสนาม จัดทำข้าวกล่อง 200 กล่อง มอบน้ำดื่ม พบปะสอบถาม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับราษฎรและคณะครูโรงเรียนบ้านท่าตาฝั่ง โดยมีผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะครูและราษฎรบ้านท่าตาฝั่งให้การต้อนรับ ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านที่อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้กลับมาอาศัยอยู่บ้านตามปกติแล้ว
นอกจากนั้นรองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวรได้มอบอุปกรณ์สำหรับใช้ในภารกิจบรรเทาสาธารณภัย และมอบอุปกรณ์ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ พร้อมเดินทางตรวจภูมิประเทศ สถานีตำรวจท่าตาฝั่ง (เก่า) ซึ่งอาจเป็นช่องทางธรรมชาติที่ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาอาจหลบหนีเข้ามาฝั่งไทย ทางด้านสาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียงได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองโควิด-19 ร่วมกับนายสิบพยาบาล ให้การรักษาพยาบาลตรวจคัดกรองไวรัสโคโรนา 2019 และรักษาโรคเบื้องต้นแก่ราษฎร จำนวน 134 ราย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่