ศบค.เผย 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด 3 จังหวัดแรก ยังเป็นกทม. นนทบุรี สมุทรปราการ เผยวันนี้สมุทรปราการ เสียชีวิตมากที่สุด 13 คน กทม. 10 คน เขตวัฒนา พบผู้ป่วยสะสมสูงสุด ขณะที่มี 18 จังหวัดไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ส่วนผู้ป้วยอาการหนัก 1,226 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 401 ราย
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วย โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ (12 พ.ค.) เพิ่มอีก1,983 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 34 คน โดยผู้ป่วยรายใหม่วันนี้มาจากการติดเชื้อในประเทศ 1,974 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 9 ราย
รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 60,044 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 486 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 88,907 ราย และเสียชีวิตสะสม 486 คน
แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า วันนี้มีหายป่วยเพิ่ม 2,006 ราย หายป่วย แล้ว 59,043 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 29,378 ราย มีอาการหนัก 1,226 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 401 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ได้แก่ กทม.976 ราย (รวมสะสม 21,405) ราย นนทบุรี 266 ราย สมุทรปราการ 110 ราย ชลบุรี 57 ราย สุราษฎร์ธานี 53 ราย พระนครศรีอยุธยา 38 ราย สมุทรสาคร 36 ราย จันทบุรี 32 ราย ปทุมธานี 29 ราย และปัตตานี 28 ราย
ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้มาจากสมุทรปราการมากที่สุด 13 ราย (ไม่ได้เสียชีวิตภายในวันเดียว) กทม. 10 ราย ปทุมธานีและนครปฐม จังหวัดละ 2 ราย และสุพรรณบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบูรณ์ ชลบุรี นครนายก สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ใขมันในเลือดสูง ไตเรื้อรัง อ้วน โรคปอดเรื้อรัง เป็นต้น
สำหรับพื้นที่ที่รายงานผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 5 เขตที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด ได้แก่ เขตวัฒนา ห้วยขวาง คลองเตย ปทุมวัน และดินแดง
ส่วนจังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ หรือเป็น 0 ราย มี 18 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง นครพนม สุรินทร์ น่าน สุโขทัย ยโสธร พะเยา สกลนคร เลย ชัยนาท แพร่ อุตรดิตถ์ หนองคาย สิงห์บุรี แม่ฮ่องสอน มุกดาหาร บึงกาฬ และสตูล
ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1-10 ราย มี 38 จังหวัด 11-50 ราย มี 16 จังหวัด 51-100 ราย มี 2 จังหวัดคือ ชลบุรีกับสุราษฎร์ธานี และที่มากกว่า 100 ราย มี 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
“จากการที่มีการ work from home มาก ขึ้น มีการปิดสถานบันเทิงไป ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงซึ่งเป็นไปตามแผนการ ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นที่ยังเน้นย้ำเสมอคือยังมีการรวมกลุ่ม บุคคลใกล้ชิด คนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือบุคคลที่อยู่รวมกันในสถานที่ทำงาน
และที่เน้นย้ำมากขึ้นในตอนนี้เป็นอาชีพเสี่ยง อาชีพสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ หรือพนักงานขับรถสาธารณะ ทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซต์ รถเมล์ รถไฟฟ้า ซึงมีการพูดคุยในที่ประชุมวันนี้ว่าจะต้องให้ความช่วยเหลือสำหรับกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว
-
ศบค. พบติดโควิดวันนี้ (12 พ.ค.) เพิ่ม 1,983 ราย เสียชีวิตพุ่งพรวด 34 คน