จังหวัดแม่ฮ่องสอน ป่วนหนักหลังพบการระบาดของโรคโควิด ในพื้นที่อำเภอสบเมย เป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่กว่า 100 ราย แต่ทางจังหวัดยังนิ่งขณะที่การระบาด ล่าสุดพบติดเชื้ออีก 12 ราย ในพื้นที่สบเมยและ อ.ปาย ทำให้ประชาชนระส่ำหนัก
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2564 ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจพบคนติดเชื้อโรคโควิด 19 เพิ่มอีก จำนวน 12 ราย CaseMS300 – MS301 เพศหญิง อายุ 33 ปี และเพศชาย อายุ 21 ปี ที่อยู่ตามภูมิล าเนา ต. เวียงใต้ อ.ปาย ทั้งสองเป็นสามี ภรรยากัน Case MS300 เป็นพนักงานบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งใน อ.ปาย เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 27 สิงหาคม 2564 Case MS301ขายของออนไลน์ เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 1 กันยายน 2564 ตรวจ Rapid antigen ผลเป็นบวก เข้ารับการรักษา ที่รพ. ปาย ผลการตรวจด้วยวิธีRT-PCR พบเชื้อCase MS302 เพศชาย อายุ 29 ปี ที่อยู่ตามภูมิล าเนาต.เวียงใต้ อ.ปาย เป็นพนักงานบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งใน อ.ปาย และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วย Case MS300 เริ่มมีอาการป่วย วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ตรวจ Rapid antigen ผลเป็นบวก เข้ารับการรักษา ที่รพ. ปาย ผลการตรวจด้วยวิธีRT-PCR พบเชื้อ Case MS303 – MS309เพศหญิง 5 คน เด็กเพศชายอายุน้อยกว่า 1 ปี 2คน ทั้ง7 ราย อาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน สบเมยต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ซึ่งพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน ที่โรงเรียนสบเมย ตามที่ได้รายงานไปก่อนหน้า มีผลการตรวจ Rapid antigen เป็นบวก ได้รับการตรวจด้วยวิธีRT-PCR ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษา ที่รพ. แม่สะเรียง 6 ราย ส่วนอีก 1 ราย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ (95 ปี) ขอรับการรักษาในรูปแบบกักตัวในชุมชน (CI) บ้านสบเมย Case MS310 – MS311 เพศชาย อายุ 18 ปี เพศชาย อายุ 16 ปี Case MS310 ที่อยู่ขณะป่วย บ้านคอนผึ้ง ต.แม่คะตวน อ.สบเมย เป็นนักเรียน (เรียนแบบทวิ) ที่โรงเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สบเมย และที่วิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่งใน อ.แม่สะเรียง เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 1 กันยายน 2564 รับการรักษาที่ รพ.สบเมยตรวจ Rapid antigen ผลเป็นบวก ตรวจด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อ ส่วน Case MS311เป็นนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สบเมย พักอยู่กับ Case MS310 มีประวัติเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่หมู่บ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ และเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ยังไม่มีอาการป่วย แต่ได้รับแจ้งจาก รพ.สบเมย ให้มาตรวจคัดกรองโควิด 19 เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ตรวจด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อ ส่งตัวเข้ารับการรักษา ที่รพ.แม่สะเรียง
ขณะที่เฟสบุคชื่อ Chai Pongpipat https://www.facebook.com/583057785/posts/10161102377942786/?sfnsn=mo ได้รายงานสถานการณ์โควิด-19 ชุมชนชายแดน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ว่าจากคลัสเตอร์หย่อมบ้านห้วยมะโอ 83 ราย ถึงเคสล่าสุดบ้านสบเมย ผลตรวจ ATK เกินร้อยกว่ารายแล้ว และเหมือนจะเพิ่มเรื่อยๆ และยังมีชุมชนใกล้เคียงที่มีความเสี่ยงรอตรวจอีกจำนวนมาก หากเอาไม่อยู่ใครจะรับผิดชอบ.?
ฝากกำชับท่านผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ ช่วยลงพื้นที่เข้าไปดูชาวบ้านชุมชนชายแดน ในการสร้างความเข้าใจ และแก้ไขปัญหาในการควบคุม ป้องกัน รักษา พื้นที่ชุมชนที่ผลตรวจ ATK ชาวบ้านติดกันจำนวนมากเร่งด่วนด้วย (โชคยังดีที่อาการไม่รุนแรงมากนัก ระดับสีเขียว) ตอนนี้ขาดแคลนทั้งบุคลากร อุปกรณ์ชุดตรวจ รวมถึงการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ เพราะถือว่าเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ และเคสใหม่ที่แพร่ในกลุ่มใหญ่ และเริ่มเสี่ยงกระจายในวงกว้าง ชุมชนชายแดน ทั้งเด็กผู้ใหญ่ ทั้งในชุมชนและนอกชุมชน และชุมชนใกล้เคียงในพื้นที่เสี่ยง เพราะขณะนี้ผลตรวจ ATK เป็นกันเกือบทั้งหมู่บ้านแล้ว อย่างน้อย 3 ชุมชน คือ บ้านห้วยมะโอ บ้านสบเมย บ้านพะละอึ เขต ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพียงแต่ต้องรอผลตรวจ RT-PCR ยืนยัน ทางจังหวัด ฯ จึงยังไม่ได้มีการนับ เป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัด มีเพียงไทม์ไลน์ของคณะ ศน.และครูที่ได้ตรวจยืนยันผลแล้วเท่านั้น ปล่อยลอยแพชาวบ้าน กักตัวในชุมชน ร่วมกับบุคลากร จนท.ควบคุมโรค บุคลาดรด่านหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนักต่อไป อย่าออกเพียงมาตรการในกระดาษและลมปาก แต่ขาดการเอาใจใส่ปัญหา ที่อาจลุกลามแพร่กระจายไปมากกว่านี้..