13 พ.ค.64 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,887 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,036 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,439 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 597 ราย มาจากการคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำ 2,835 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 93,794 ราย หายป่วยสะสม 60,615 ราย อยู่ระหว่างรักษา 32,661 ราย อาการหนัก 1,209 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 406 ราย
มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 32 ราย อยู่ใน กทม. 17 ราย นครราชสีมา 3 ราย ปทุมธานี เชียงใหม่ จังหวัดละ 2 ราย สุรินทร์ สระบุรี นครปฐม พะเยา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี ภูเก็ต จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไตเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคตับ โรคปอดเรื้อรัง มะเร็ง โรคอ้วน ติดเตียง ปัจจัยเสี่ยงมาจากคนในครอบครัว ร่วมงานเลี้ยง ไปสถานที่แออัด และอาชีพเสี่ยง ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 518 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 161,080,616 ราย เสียชีวิตสะสม 3,345,018 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย ในจำนวนนี้มี 6 ราย ลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ เป็นกัมพูชา 2 ราย เมียนมา 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย และลาว 2 ราย โดยที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หารือถึงปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ และเมื่อวันที่ 12 พ.ค.มีรายงานว่าฝ่ายปกครองกาญจนบุรีร่วมกับตำรวจจับกุมแรงงานต่างด้าวได้ที่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ โดยพบบนรถกระบะ 3 คัน กำลังลำเลียงคนต่างด้าวเมียนมา 75 คน แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงคัดกรองและจะดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงเน้นย้ำฝ่ายความมั่นคงดูแลตรงนี้ และฝากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อที่สุดในวันที่ 13 พ.ค. ได้แก่ กทม. 1,069 ราย สมุทรปราการ 194 ราย ปทุมธานี 105 ราย นนทบุรี 78 ราย และสุราษฎร์ธานี 73 ราย แต่อย่างไรก็ดี วันเดียวกันมีถึง 14 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเลย ได้แก่ ลพบุรี ตราด ตาก น่าน กาฬสินธุ์ ชุมพร พะเยา อุตรดิตถ์ หนองคาย อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู มุกดาหาร สตูล ซึ่งผู้ติดเชื้อยังกระจุกอยู่ที่ กทม.และปริมณฑล ที่มีผู้ติดเชื้อรวมกัน 1,524 ราย ส่วนจังหวัดอื่นๆ รวมกันเพียง 512 ราย
ทั้งนี้ สถานการณ์ของ กทม.มีแนวโน้มระบาดคงตัว ไม่ลดลง และมีผู้ป่วยอาการหนัก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้น โดยมีความเข้มข้นใน 11 เขต ประกอบด้วย ดินแดง วัฒนา ลาดพร้าว พระนคร ราชเทวี สวนหลวง ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย จตุจักร และหลักสี่ เขตเหล่านี้อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง