นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ตนเองจะเดินทางลงพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ทั้งมาตรการรองรับผู้อพยพ และมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้สามารถรองรับได้ รวมไปถึงการจัดเตรียมฉีดวัคซีนให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ตลอดแนวชายแดน ทั้งที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 2 พันคน
นายอนุทิน กล่าวว่า จะไม่มีการผลักดันผู้อพยพกลับประเทศ หากกลับไปแล้วจะได้รับอันตราย ซึ่งเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเข้ามาในเวลานี้ก็ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนที่มีข้อกังวลเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 นั้น จะให้อยู่ในจุดที่กำหนดรอบนอก ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 3 มั่นใจจะสามารถดูแลได้
สำหรับการลดวันกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มในวันนี้ก็หวังว่าจะมีการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น หลังจากได้กระจายวัคซีนของซิโนแวก ล็อต 2 จำนวน 8 แสนโดส ไปในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ทั้งภูเก็ต และเกาะสมุย เพื่อให้เกิดความมั่นใจและความปลอดภัยสำหรับประชาชนในพื้นที่ และภาคธุรกิจที่ต้องให้บริการลูกค้า
ส่วนการลดวันกักตัวเหลือ 7 วันสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามหลักเกณฑ์นั้นตั้งใจจะเน้นไปที่คนไทยซึ่งได้รับวัคซีนแล้ว และเดินทางไปต่างประเทศ เมื่อกลับเข้ามาไม่ต้องกักตัวครบ 14 วัน ส่วนกรณีชาวต่างชาติขณะนี้ยังไม่มีแพลตฟอร์มที่เป็นระบบการตรวจสอบผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งต่างจากของเราที่ชัดเจน หากคนใดฉีดวัคซีนจะมีคิวอาร์โค้ดเป็นใบรับรองที่ยืนยันข้อมูลตัวบุคคลได้
–อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]–