เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ราษฎรบ้านแม่ต๊อบเหนือ หมู่ 7 ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 100 กว่าคน นำโดย นายคงกระพัน บันชาบันลือยศ ผญบ. บ้านแม่ต๊อบเหนือ ฯ ได้กันเดินไปประท้วง และขึ้นป้ายขับไล่ พระอานุภาพ ศรีวิชัย ที่สำนักสงฆ์พระธาตุมอเล ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน โดยได้ยื่นข้อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อ เจ้าคณะอำเภอ คณะสงฆ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย จนท.ฝ่ายปกครอง จนท.ตำรวจ สภ.แม่สะเรียง เพื่อให้พิจารณานิมนต์พระอนุภาพ ให้ออกไปนอกพื้นที่ หลังมีความขัดแย้งกับชาวบ้าน
นายคงกระพัน บันชาบันลือยศ ผญบ. บ้านแม่ต๊อบเหนือ ม. 7 ต.บ้านกาศ กล่าวว่าตนเองได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้านว่า พระอานุภาพ ศรีวิชัย ที่สำนักสงฆ์พระธาตุมอเล ได้มีการโพสข้อความในเฟซบุ๊ก Arnupap Srivichai ว่า “ข่มขู่พระ ลอบยิงพระ ซุกซ่อนยาเสพติดในรถยนต์วัด หมายจับกุมพระ ยิงหมา วางยาพิษพระเณร (ในบ่อน้ำใช้และอาหาร) วางยาพิษหมาแมว จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้เกิดความสียหายกับหมู่บ้านและสร้างความไม่พอใจของลูกบ้าน ซึ่งไม่ได้เป็นความจริง ซึ่งทางชาวบ้านมีความเคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตลอดตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย มาจนถึงปัจจุบันก็ยังเข้าวัดทำบุญกันมิขาด จะมีก็แต่ทางพระอนุภาพ เท่านั้นที่ประพฤติตัวจนทำให้ชาวบ้านหมดความศรัทธา จนไม่ยอมเข้าวัดและไม่สามารถเดินทางขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุได้เหมือนเดิม เพราะทางพระอนุภาพได้ปิดประตูล็อคกุญแจทางขึ้น ไมให้ชาวบ้านขึ้นไปสักการะบูชาพระธาตุ
จากการเจรจา ระหว่างตัวแทนชาวบ้านและทางคณะสงฆ์ ทางฝ่ายสงฆ์ ระบุว่า บางข้อร้องเรียน พระอนุภาพเองก็มีส่วนผิด ซึ่งทางคณะสงฆ์ ได้นำเรื่องดังกล่าวฯไปพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ นายติราช นาถบุญโญฤทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักพุทธศาสนา จ.แม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา กรณีพระสำนักสงฆ์มอเล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Arnupap Srivichai ว่า “ข่มขู่พระ ลอบยิงพระ ซุกซ่อนยาเสพติดในรถยนต์วัด หมายจับกุมพระ ยิงหมา วางยาพิษพระเณร วางยาพิษหมาแมว จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ต่างๆนาๆเกิดข้อขัดแย้งในโซเชียล มีการสร้างข้อความอันเป็นเท็จลงในสื่อโซเซียลมีเดีย ทำให้เกิดความเสียหายให้กับหมู่บ้าน
โดยสรุปแล้วไม่ได้เป็นความจริงดังพระอนุภาพกล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้มองว่าหากสิ้นศรัทธาจากชาวบ้านแล้ว การจำพรรษาอยู่ในที่เดิม อาจจะมีการกระทบกระทั่งบานปลาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวพระอนุภาพเองว่าจะพิจารณาตัวเองหรือไม่ เพื่อที่จะไม่ต้องไปถึงคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ และชาวบ้านเองจะได้ลดความรุนแรงลงมาบ้าง
ด้านเจ้าคณะ อ.แม่สะเรียง กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง การตั้งคณะกรรมการสงฆ์ ทางสงฆ์มีอำนาจตามกฎของสงฆ์ ทั้งนี้ก็ได้ประชุม กับทางคณะกรรมการหมู่บ้านประชุมประชาคมแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางคณะสงฆ์ได้มีการประชุมถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และพิจารณาโดยเร่งด่วน เพื่อหาข้อสรุป ให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขอให้ชาวบ้านใจเย็นๆลงก่อน โดยมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ที่ทำขึ้นระหว่าง พระอนุภาพ ศรีวิชัย(พระฐิตปุญฺโต) ฝ่ายหนึ่ง และตัวแทนชาวบ้านแม่ต๊อบเหนือ จำนวน 4 ท่าน โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันทำบันทึกข้อตกลงขึ้นที่ ที่พักสงฆ์มอเล ต.บ้านกาศ อ. แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. จากการประชุมร่วมของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วย 1.พระอานุภาพ ศรีวิชัย และตัวแทน จำนวน 2 คน 2.ตัวแทนชาวบ้าน 4 คน 3.ตัวแทนฝ่ายปกครอง จำนวน 2 คน 4. เจ้าคณะตำบล และ เจ้าคณะอำเภอ (ตัวแทนคณะสงฆ์)
2. พระอานุภาพ ศรีวิชัย ยินดีปฏิบัติตามข้อเสนอของเจ้าคณะตำบล ที่ขอให้พระอานุภาพ ศรีวิชัย ไปปฏิบัติธรรมที่ สำนักธรรม (วัด) ที่ ทางคณะสงฆ์จะดำเนินการให้ โดยมีเงื่อนไขว่า หากพระอานุภาพ ไม่พอใจในคำสั่งนี้ ก็สามารถอุทธรณ์คำสั่งต่อพระเถระผู้บังคับบัญชา ได้ตามพระราชบัญญัติสงฆ์และมติของมหาเถรสมาคม และเพื่อให้การปฏิบัติธรรมศาสนกิจของพระภิกษุอนุญาตให้พระอานุภาพ อาศัยปฏิบัติธรรม ณ ที่พักสงฆ์มอเล ภายในพรรษานี้ไปก่อน เมื่อออกพรรษาแล้วต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ กับเจ้าคณะตำบล โดยที่ตัวแทนชาวบ้านเห็นพร้อมด้วยไม่คัดค้านเรื่องนี้ พระอานุภาพ ก็เห็นพ้องด้วย ไม่คัดค้านเรื่องนี้ ในระหว่างนี้ให้ทั้งสองฝ่าย ยุติเรื่องคดีความที่มีต่อกัน หรืออาจมีต่อกันในวันหน้าลงโดยทันที และ ในระหว่างนี้ พระอานุภาพ ศรีวิชัย ยินดีที่จะไม่ทำการโพสข้อความที่อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทในสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อยุติความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
3. ชาวบ้านยินดีและยอมรับข้อเสนอดังกล่าวตามข้อ 2
4. พระอานุภาพ ศรีวิชัย และพระในวัด ได้รับทราบข้อตกลงดังกล่าวฯ ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายก็รับทราบข้อเสนอดังกล่าวแล้ว
5. การจัดทำข้อเสนอดังกล่าวนี้ ได้ทำไว้ 4 ฉบับ เพื่อมอบไว้ให้กับ 1.เจ้าคณะตำบลในฐานะ เถระผู้บังคับบัญชา 2. พระอานุภาพ ศรีวิชัย 1 ฉบับ 3.ตัวแทนชาวบ้านแม่ต๊อบเหนือ 1 ฉบับ และ 4.ตัวแทนเจ้าหน้าที่ปกครอง กระทรวงมหาดไทย 1 ฉบับ เพื่อให้ถือปฏิบัติร่วมกัน
6. ในครั้งนี้ ได้นำข้อเสนอนี้ เรียนแก่เจ้าคณะอำเภอ ซึ่งได้มาเป็นประธานในการบันทึกข้อเสนอ ได้อ่านศึกษาทำความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดความสงบ สันติ ในชุมชนและความมั่งคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงเอาไว้เป็นหลักฐานให้ทุกส่วนปฏิบัติตาม โดยเป็นที่พึงพอใจทางคณะสงฆ์ และชาวบ้าน ก่อนที่จะให้ชาวบ้านแยกย้ายกันกลับไป
ทศพล / แม่ฮ่องสอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม : (มีคลิป) ยุติความขัดแย้ง ชาวบ้านแม่ต๊อบเหนือกับพระอนุภาพ สางปมปัญหา พระยินยอมย้ายหลังออกพรรษา ตามข้อเสนอเจ้าคณะตำบล
