“บิ๊กตู่” วอนก้าวข้ามกับดักนำพาประเทศไปสู่สายตาชาวโลก
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.หฤษฎ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.คงฤทธิ์ สุขใส ผกก.ตม.จว.กระบี่, พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบศีรีขันธ์ และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) บก.สส.สตม. เดินทางตรวจพื้นที่ด่านชายแดนภาคเหนือ เพื่อวางแผนร่วมสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศเมียมมา ที่กำลังมีการระบาดอย่างหนัก และยังมีปัญหาการเมืองภายในประเทศ โดยเกรงว่าชาวเมียมมา จะทะลักมาฝั่งไทย เพื่อหนีการปราบปรามของเจ้าหน้าความมั่นคง จึงลงพื้นที่ จ.เชียงราย, จ.เชียงใหม่, จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ลำพูน
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา การนำเข้าและส่งออกสินค้าที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว โดยรถขนส่งสินค้าจากฝั่งไทย ไม่สามารถทำการขนส่งเข้าประเทศเมียนมา ได้ เนื่องจากมีกลุ่มประชาชนชาวเมียนมา ออกมาชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร และพากันไปชุมนุมที่บริเวณด่านพรมแดน โดยมีผู้นำแผงกั้นไปกั้นบริเวณด่านฝั่งท่าขี้เหล็ก ซึ่งคาดว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่เมียนมา ที่เห็นว่าบริเวณดังกล่าวไม่สามารถทำพิธีการทางศุลกากรได้โดยสะดวก ส่งผลให้ต้องปิดถนนตรงสะพานที่เชื่อมโยงกับประเทศไทยไปโดยปริยาย
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า เมื่อวานที่นี้เกิดการประท้วงหนักในเมียมมา เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศ ต่อมาฝ่ายสืบสวนและความมั่นคงของ สตม.สืบพบว่า อาจมีการรวมกลุ่มของแรงงานเมียนมา ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.จึงสั่งการให้ตนเดินทางมากำชับการปฏิบัติงาน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการรวมตัวกันประท้วงในพื้นที่ ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เบื้องต้นได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน บก.ตม.5 และ บก.สส.สตม. จัดกำลังออกหาข่าวและพูดคุยกับแรงงานต่างด้าวที่คาดว่าเป็นแกนนำในประเทศไทย เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงข้อกฎหมายไทยแล้ว โดยหากรวมตัวกันประท้วง สตม.และตำรวจท้องที่ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังกำชับให้ สตม.ประสานงานกับหน่วยทหารตามแนวชายแดนที่ป้องกันช่องทางธรรมชาติบริเวณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ป้องกันการลักลอบเข้ามาในประเทศของชาวเมียนมา เพราะหวั่นเกรงว่าหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงใน จ.ท่าขี้เหล็ก อาจมีมวลชนหลบหนีการดำเนินการของทางการเมียนมา เข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งการข่าวยังพบว่า ยังมีแรงงานต่างด้าวอีกจำนวนมาก ต้องการหลบหนีเข้ามาใช้แรงงานในบ้านเรา หลังจากที่ทางการได้ปิดการยกเว้นการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวไปแล้ว จึงต้องเข้มงวดในส่วนนี้ด้วย เพราะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหากตรวจพบ ต้องดำเนินการผลักดันกลับประเทศทันที