เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านริมแม่น้ำสาละวิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่ง ที่บรรทุกเครื่องอุปโภค-บริโภค เพื่อไปส่งยังบ้านแม่นึท่า ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ถูกทหารเมียนมาซึ่งประจำฐานจ๊อก หยะ ปล้นก่อนถึงบ้านแม่นึท่า โดยทหารเมียนมาจำนวน 12 นาย ได้ใช้ปืนยิงข่มขู่ขณะที่เรือแล่นเลียบฝั่งรัฐกะเหรี่ยง เนื่องจากบริเวณดังกล่าว เป็นโค้งน้ำ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำลดลง และริมน้ำฝั่งไทยเต็มไปด้วยโขดหิน ทำให้เรือต้องแล่นเลียบฝั่งรัฐกะเหรี่ยง
ชาวบ้านสาละวินเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 12 ตุลาคม 2564 โดยทหารเมียนมาได้ยิงปืนขู่หลายนัด เพื่อให้เรือขนสินค้าลำดังกล่าวจอดเทียบชายฝั่ง จากนั้นทหารเมียนมาได้ช่วยกันขนข้าวของทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 6 กล่อง ไก่ 20 ตัว และปลากระป๋อง รวมทั้งหอมแดงและมันอาลูอีกจำนวนหนึ่ง
“ตอนนี้ทหารเมียนมากำลังลำบาก เนื่องจากถูกปิดกั้นเส้นทางลำเลียงเสบียงโดยทหาร KNU (Karen National Union กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เพื่อกดดันให้ฐานทหารพม่า ย้ายออกจากพื้นที่ริมแม่น้ำสาละวิน จริงๆ แล้วทหารเมียนมาต้องการข้าวสาร แต่เรือลำนี้ไม่ได้บรรทุกข้าวสารไป” ชาวบ้านกล่าวว่าหลังจากขนถ่ายสินค้าขึ้นไปยังฐานปฎิบัติการแล้ว ทหารเมียนมาได้ทำการสอบสวนคนขับเรือ และปล่อยตัวรวมทั้งเรือในเวลาต่อมา
ข่าวแจ้งว่า ฐานทหารเมียนมาจ๊อก หยะ ตั้งอยู่บนดอยสูงและต้องใช้เวลานับชั่วโมง กว่าจะเดินเท้าลงมาถึงริมแม่น้ำสาละวิน แต่เนื่องจากความขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก ทำให้ทหารเมียนมาบางส่วน ลงมาดักซุ่มอยู่ริมแม่น้ำ และได้ยิงปืนข่มขู่เรือบรรทุกสินค้าที่ผ่านเส้นทางเพื่อขอเสบียง โดยที่ผ่านมาคนขับเรือพยายามเลี่ยงแล่นเรือออกห่างจากฝั่ง แต่เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสาละวินเริ่มลดลงตามฤดูกาล ทำให้จำเป็นต้องใช้ร่องน้ำที่อยู่ติดกับฝั่งรัฐกะเหรี่ยง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2564 ได้ปรากฏข่าวดังเมื่อมีข้าวสาร 700 กระสอบ พร้อมเสบียงอื่นๆ มากองไว้ที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเตรียมจัดส่งให้ฐานทหารเมียนมาริมแม่น้ำสาละวิน โดยสื่อมวลชนหลายสำนักได้รายงานตรงกันว่า เสบียงดังกล่าวทหารเมียนมาได้จัดส่งเข้ามาทางด่านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยได้ประสานผ่านทหารไทย เนื่องจากเส้นทางลำเลียงด้านอื่นในฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ถูกสกัดกั้นจากทหาร KNU หมดทุกทาง จึงต้องลำเลียงผ่านประเทศไทยข้ามแม่น้ำสาละวิน ทั้งนี้ภายหลังถูกปิดกั้นเส้นทางลำเลียงเสบียงและถูกทหาร KNU บุกยึดฐานทหารเมียนมาริมแม่น้ำสาละวินอย่างน้อย 2 แห่ง ทำให้กองทัพเมียนมาใช้เครื่องบินบุกโจมตีบ้านเดปูโหน่ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของ KNU กองพล 5 จนทำให้ชาวบ้านหลายหมื่นคนต้องหนีออกจากหมู่บ้าน และหลายพันคนอพยพหนีตายข้ามมาอาศัยอยู่ริมแม่น้ำสาละวินฝั่งไทย โดยต่อมาถูกผลักดันกลับฝั่งรัฐกะเหรี่ยง กลุ่มสันติภาพกะเหรี่ยง KPSN รายงานว่าจวบจนปัจจุบันยังมีชาวบ้านในรัฐกะเหรี่ยงพลัดถิ่นหลบซ่อนอยู่ตามป่า จำนวน 70,000 คน
หมายเหตุ-ภาพจากแฟ้มภาพ