แม่ฮ่องสอนพร้อมรองรับสถานการณ์ กะเหรี่ยงตามพื้นที่ชายแดนเมียนมากว่า 2 พันคน หนีทหารสู้รบข้ามฝั่งมาไทย หากตรวจสอบแล้วมีอันตรายเสี่ยงชีวิตก็จะรับดูแลตามหลักมนุษยธรรม แต่ถ้าเป็นเรื่องตื่นตระหนกก็จะส่งกลับ
อังคารที่ 30 มีนาคม 2564 เวลา 12.39 น.
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านรองรับสถานการณ์หลังจากที่มีประชาชนชาวกะเหรี่ยงตามพื้นที่ชายแดนในประเทศเมียนมาบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ข้ามฝั่งมายังแนวตะเข็บชายแดนของประเทศไทยแล้ว โดยเข้ามาอยู่ในจุดแรกรับซึ่งกองกำลังนเรศวรควบคุมดูแลเป็นการรับเบื้องต้นโดยทางทหารก็มีกระบวนการและมาตรการดูแล
หากสอบสวนแล้วอาจจะแค่ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวก็จะให้กลับเข้าไปในเขตประเทศเมียนมาที่อยู่อาศัยเดิมแต่ถ้าหากผู้อพยพเหล่านี้ได้รับผลกระทบถึงขั้นอาจจะเสี่ยงต่อชีวิตทางเราก็จะดูแลไว้ในห้วงระยะเวลาหนึ่งตามหลักมนุษยธรรมตามสมควร และผู้อพยพเหล่านี้ยังอยู่ในการดูแลของทหารยังไม่ได้ส่งต่อให้ฝ่ายปกครองจังหวัดแต่เราก็ต้องเตรียมความพร้อมทุกด้านไว้รอความชัดเจนจากกระทรวงมหาดไทยอีกครั้งเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติ
ส่วนการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU กับทหารเมียนมายังไม่มีรายงานกระสุนปืนเข้ามาตกในเขตไทยแต่อย่างใด โดยทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้สั่งการให้นายอำเภอแต่ละอำเภอประสานงานกับฝ่ายทหารอย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนไทยตามแนวชายแดน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวเมียนมาเชื้อสายกะเหรี่ยงในเขตรับผิดชอบของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ/KNU ได้อพยพหลบหนีภัยสงครามจากรัฐกะเหรี่ยง 1,900 คน เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่แนวชายแดนออเลาะ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 300 คน, มาจากห้วยอูแวโกร พื้นที่พักพิงของเมียนมาเข้ามาอาศัยในไทยที่บ้านแม่ดึ หมู่ 5 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 300 คน, มาจากห้วยอีทูโกร เขตเมียนมา เข้ามาอาศัยในไทยที่ฐานแม่สะเกิบ บ้านห้วยกองแป หมู่ 3 ต.แม่คง 1,300 คน รวมได้มีผู้อพยพเข้ามาอาศัยในไทยในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง ปัจจุบัน 2,194 คน
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%