ปืนค.พม่าตกฝั่งไทยอีกด้านแม่ฮ่องสอน ชาวบ้านท่าตาฝั่งแตกตื่น เผยกองทัพพม่าปะทะทหารเหรี่ยงดุเดือด KNUประกาศกร้าวยุติการบริหารงานรัฐบาลทหารพม่าในเมืองผาปูน-แจ้งเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ใน 10 วัน
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 30 ตั้งแต่เวลาว 22.00น.ที่บ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีเสียงปืนจากฝั่งพม่าดังเป็นระยะๆ จนกระทั่งเวลา 23.10น.มีเสียงลูกปืนใหญ่ตกใกล้หมู่บ้าน โดยมีสะเก็ดระเบิดได้ตกใส่หลังคาบ้าน 2 หลัง ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังมีเสียงเครื่องบินทิ้งระเบิดดังระยะไกล หลายลูกและมีเสียงปืนดังเป็นระยะๆ จนถึง02.30น.เสียงปืนเงียบลง
ในตอนเช้าชาวบ้านได้ร่วมกันสำรวจตามที่เสียงลูกปืนใหญ่ตกโดนพบว่าอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ประมาณ100 เมตร และพบว่ามีหลังคาบ้านโดนสะเก็ดระเบิดทำให้เป็นรู2จุด อย่างไรก็ตามชาวบ้านทุกคนปลอดภัย และขณะนี้นี้จุดเกิดเหตุ อยู่ในควบคุมดูแลของทหารพรานกองร้อยทหารพราน 3605 กรมทหารพรานที่ 36 และได้ห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อรอเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตามรายงานล่าสุดระบุว่าเป็นลูกกระสุนปืน ค.82
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดการสู้รบระหว่างทหารของกองทัพพม่าและทหารกะเหรี่ยงกองพล 5 กองกำลังปลดปล่อยประชาชนกะเหรี่ยง (KNLA) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union: KNU) บริเวณทางตอนเหนือของเมืองผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บและถูกส่งตัวมารักษาในเขตฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กองบัญชาการKNLAกองพลที่ 5 ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า 1. เป็นที่ทราบกันดีว่าประชาชนทั้งประเทศกำลังประท้วงในรูปแบบต่าง ๆ ต่อการกระทำของรัฐบาลทหารพม่าในปัจจุบัน พวกเรา KNU/KNLA กองพลที่ 5 จึงออกประกาศเตือนเพื่อให้ยุติการบริหารของรัฐบาลทหารพม่าในพื้นที่ของกองพลที่ 5
2. ต้องการแจ้งให้ทราบว่า ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนจากหน่วยงานต่างๆ ผู้เกี่ยวข้องกับพลเรือนที่ปฏิบัติงานภายใต้รัฐบาลทหาร ซึ่งอยู่ภายในเมืองผาปูน จังหวัดมูด่อ รัฐกะเหรี่ยง ให้ออกจากเมืองผาปูนภายในวันเวลาที่กำหนดคือระหว่างวันที่ 1-10 กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยเส้นทางทางน้ำไปยังพื้นที่ของตน และให้ข้าราชการในเมืองหลีกเลี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภายใต้รัฐบาลทหาร หากละเลยไม่เชื่อฟังคำสั่งจะมีการดำเนินการเอาเรื่อง
ก่อนหน้านี้ พ.อ.ซอลาโด่ ผู้บังคับการพื้นที่ริมแม่น้ำสาละวินพรมแดนไทย-พม่า กองพลที่ 5 KNLA ให้สัมภาษณ์ว่าในพื้นที่กองพล 5 และเขตใกล้เคียงมีการสู้รบกับกองทัพพม่าอยู่ตลอด แต่ริมสาละวินที่พรมแดน ตอนนี้ยังไม่มีการปะทะ ซึ่งหากมีสถานการณ์ เช่น กองทัพพม่าส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิด จริงๆ ก็ไม่อยากให้ประชานในรัฐกะเหรี่ยงข้ามไปฝั่งไทย แต่หากเกิดวิกฤติ เป็นสถานการณ์ที่จำเป็นก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอประชาชนไทยเห็นใจ
พ.อ.ซอลาโด่ทู กล่าวว่าหลายเดือนที่ผ่านมานี้ทหารพม่าในพื้นที่ถือว่าอยู่ในภาวะกดดัน เพราะกองกำลัง KNU ได้ปิดเส้นทางลำเลียงเสบียงไว้หมด ทหารกลุ่มที่อยู่ที่ฐานดากวิน (ตรงข้าม บ้านท่าตาฝั่ง) ตกอยู่ในสภาพลำบากเพราะไม่มีอาหารส่งถึง จึงมีการยิงเรือ และปล้นเรือประชาชนที่สัญจรผ่านแม่น้ำสาละวิน ซึ่งเราก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องเดือดร้อนแก่ประชาชนสาละวิน
“ตอนนี้ในพม่า ทั้งคนพม่า กะเหรี่ยง คะฉิ่น คะเรนนี ต่างลุกชึ้นมาต่อสู้ แม้แต่ชาวพม่าก็ลุกขึ้นสู้กับเผด็จการทหาร สำหรับพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง เขตกองพล 5 หากเราป้องกันไม่ได้ หากเขาชนะ หากเขาส่งเครื่องบินมาโจมตี หากมีประชาชนหนีภัยความตายไปฝั่งไทย ก็ขอให้เข้าใจ ไม่ใช่เฉพาะชาวกะเหรี่ยง ที่ต้องหนี เพราะตอนนี้เราเดือดร้อนกันทั้งประเทศ” นายพันกะเหรี่ยงกล่าว
เมื่อถามถึงความพร้อมเตรียมรับการโจมตี พ.อ.ซอลาโด่ลูกล่าวว่า ว่าชาวกะเหรี่ยงมีประสบการณ์แบบนี้ พร้อมหนี ตอนนี้ให้ระวัง เพราะมีรายงานว่าเครื่องบินและโดรนของทหารพม่าส่งเข้ามาในพื้นที่ทุกวัน ชาวกะเหรี่ยงทุกบ้านเตรียมความพร้อม ขุดหลุมหลบภัย หากเกิดเหตุทิ้งระเบิด เส้นทางหลบหนีก็พอมีที่จะหนีไปในป่า
เมื่อถามว่าครั้งนี้การต่อสู้กับกองทัพพม่าระลอกนี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้วหรือไม่ พันโทซอลาโด่ กล่าวว่า ตนเองก็คิดเช่นนั้น เพราะตอนนี้ประชาชนพม่าทั้งหมดทั้งประเทศ ไม่เอาเผด็จการทหารพม่าแล้ว “เราต้องพยายามมากกว่าเดิม ให้สำเร็จให้ได้ ให้ประชาชนได้มีสันติภาพ ได้อยู่กันอย่างสงบสุข”