คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เกียรติศักดิ์ รักสัตย์
ทศพล บุญพัฒน์
เรื่อง/ภาพ
ตามตร.รวบแก๊งแสบ! แกล้งขับชนตบทรัพย์ ป่วนเมืองแม่ฮ่องสอน
ท้องถนนเมืองไทยยุคนี้อันตรายเพิ่ม มากขึ้นทุกๆ วัน นอกจากอุบัติเหตุ ขับรถเฉี่ยวชนที่แม้เราจะระมัดระวังเพียงใด ก็ย่อมมีโอกาสพลาดพลั้งเข้าสักวันจนได้แล้ว ยังมีแก๊งมิจฉาชีพหากินอยู่บนท้องถนน โดยใช้วิธีตั้งใจที่จะให้ขับชนเพื่อข่มขู่เอาทรัพย์สิน ปรากฏเป็นข่าวให้ได้รับทราบอยู่เป็นระยะๆ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. เพจเฟซบุ๊กขุนยวม มาร์เกต ได้นำเรื่องราวของแก๊งตบทรัพย์ ซึ่งมีพฤติการณ์ขับรถยนต์ประชิด เมื่อมีโอกาสจะให้คู่กรณีเข้ามาเบียดรถของตน จนเกิดอุบัติเหตุแล้วได้ข่มขู่เรียกรับเงินจากคู่กรณี ลงโพสต์เตือนภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ ก่อนจะพบว่าแก๊งแสบดังกล่าวก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว
พ.ต.อ.พิษณุ สมนึก ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน แถลง
หลังเรื่องราวดังกล่าวกระหึ่มไปทั่วโซเชี่ยล พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน สั่งการให้ พ.ต.อ.วุฒิชัย กลิ่นสิงห์ ผกก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน พ.ต.อ.พิษณุ สมนึก ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พ.ต.ท.สมาน มหาวัน รองผกก.สส.สภ.ขุนยวม สืบสวนจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วก่อนจะมีคนตกเป็นเหยื่ออีก
ต่อมานายไกรศรี อายุ 38 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ขุนยวม และแจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค มีชายคนหนึ่งแกล้งทำเป็นอุบัติเหตุรถ เฉี่ยวชน แล้วเรียกรับเงินจำนวน 12,000 บาท แต่ผู้เสียหายได้ต่อ รองจ่าย 6,000 บาท ทางชุดสืบสวนได้ติดตามหาผู้กระทำผิดและได้ติดตามจากกล้องวงจรปิดภายในพื้นที่ จนทราบว่ารถคันที่ก่อเหตุคือ รถกระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีเงิน ทะเบียน 1ฒย 8317 กรุงเทพมหานคร
คุมชี้จุดเกิดเหตุ
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ประสานไปยัง สภ.ใกล้เคียงว่า เกิดเหตุกรณีเดียวกันหรือไม่ จนทราบว่ามีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากแก๊ง ดังกล่าวแล้ว 3 ราย รายแรกในพื้นที่อำเภอปายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 รายที่สองในพื้นที่อำเภอเมืองเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 รายที่สามเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 ในพื้นที่อำเภอขุนยวม โดยส่วนใหญ่แล้วจะเสียเงินจากการเรียกของแก๊งรายละ 5,000-10,000 บาท
ลักษณะของกลุ่มแก๊งดังกล่าวจะมาในคราบนักท่องเที่ยวแฝงตัวอยู่ตามปั๊มน้ำมันเพื่อรอดูผู้ที่มากดเงินจากตู้ ATM โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ เมื่อเห็นว่าคนไหนกดเงินเป็นจำนวนมากแล้วพอออกจากปั๊มไปแก๊งดังกล่าวก็จะขับรถสะกดรอยตามหลังโดยให้รถเก๋งขับจี้ตูด ส่วนรถกระบะจะขับนำหน้าไปพอเห็นทางเปลี่ยวก็จะขับรถแซงขึ้นหน้าไปสักระยะหนึ่งแล้วแกล้งเปิดไฟชิดซ้ายเพื่อให้เหยื่อขับรถมอเตอร์ไซค์แซงขึ้นหน้า
รถกระบะแก๊งแสบ
จากนั้นก็จะขับรถปาดหน้าเพื่อให้เกิดการเบียดชนกัน แล้วจะลงมากล่าวหาผู้ที่ขับมอเตอร์ไซค์ว่าทำให้รถเขาเสียหายจึงเรียกเงินค่าเสียหายรายละ 12,000 บาท แถมยังข่มขู่ต่างๆ นานา อีกด้วย สำหรับรถที่แก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ใช้จะเป็นกระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีเงิน ทะเบียน 1ฒย 8317 กรุงเทพมหานคร โหลดต่ำ คนร้ายจะมากัน 2-3 คน ลักษณะผิวดำแดง ผอม สูงประมาณ 170 ซ.ม.และยังจะมีรถเก๋งอีกคันหมายเลขทะเบียน 5640 กำแพงเพชร ร่วมขบวนการด้วย
กระทั่งวันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.อ.พิษณุ สมนึก ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน แถลงข่าวผลการจับกุมคดีกรรโชกทรัพย์ดังกล่าว หลังสามารถติดตามจับกุมตัวนายสมภพ แน่นอุดร อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ จ.33/2564 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 17.30 น.
โพสต์เตือนภัย
พ.ต.อ.พิษณุ เผยว่าภายหลังเจ้าหน้าที่สืบสวนจนได้ข้อมูลแน่ชัด เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจับจากศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนชุดสืบสวนระดมตรวจสอบหารถระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีเงิน ทะเบียน 1ฒย 8317 กรุงเทพมหานคร คันต้องสงสัย พร้อมทั้งประสานไปยังชุดสืบสวน สภ.จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมตรวจสอบหา กระทั่งเย็นวันที่ 13 ธ.ค. ตำรวจก็สามารถสกัดจับกุมตัวนายสมภพได้พร้อมรถกระบะคัน ดังกล่าว และได้นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากจบการแถลงข่าว มีนายจำลอง เจ้าของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลขุนยวม อำเภอขุนยวม นำหลักฐานมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายสมภพคนนี้ได้ก่อเหตุกรณีเดียวกัน (ตบทรัพย์) กับตนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 บริเวณถนนขุนลุมประพาส เยื้องโรงแรมอิมพีเรียลธารา ตนสูญเงินไป 8,500 บาทเช่นกัน จึงมอบเอกสารภาพถ่ายที่ตนถ่ายไว้ในวันเกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีเพิ่มอีกกระทงหนึ่งด้วย
สมาชิกแก๊งถูกซิวไปแล้ว 1 ที่เหลือน่าจะย้ายถิ่นไปหาก่อเหตุที่อื่นอีก คอยระวังกัน ให้ดี หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล โทร.191 เอาไว้ก่อนเป็นการดี