นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน แถลงข่าวถึง สถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กนักเรียนและแผนการฉีดวัคซีนสำหรับการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 พ.ย. 64 โดยระบุว่า สำหรับความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่นักเรียนทั่วประเทศ จำนวนประมาณ 5 ล้านคนในขณะนี้ จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับรายการล่าสุด ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2564 พบว่า ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้มีการจัดสรรวัคซีนไปยังสาธารณสุขทั้ง 12 เขตสุขภาพเพื่อประชาชนทั่วประเทศแล้วกว่า 3,892,701 โดส ซึ่งมีจำนวนนักเรียนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 1 ไปแล้วจำนวน 2,683,229 คน ประมาณ 45.7% และมีนักเรียนที่แจ้งความประสงค์ขอฉีดวัคซีนเข็ม 1 เพิ่มเติมจำนวน 427,403 คน คาดการณ์ว่าจะมีความก้ามหน้าในการฉีดวัคซีนในนักเรียนได้ ประมาณ 68.9%
โดยแบ่งเป็นการฉีดวัคซีนในแต่เขตสุขภาพเพื่อประชาชน ดังนี้
- เขตสุขภาพที่ 1 (เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน) ฉีดวัคซีนไปแล้ว 200,954 ราย แจ้งความประสงค์เพิ่มเติม 46,331 ราย
- เขตสุขภาพที่ 2 (ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์) ฉีดวัคซีนไปแล้ว 169,611 ราย แจ้งความประสงค์เพิ่มเติม 13,031 ราย
- เขตสุขภาพที่ 3 (ชัยนาท กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ) ฉีดวัคซีนไปแล้ว 135,914 ราย แจ้งความประสงค์เพิ่มเติม 3,813 ราย
- เขตสุขภาพที่ 4 (นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก) ฉีดวัคซีนไปแล้ว 228,119 ราย แจ้งความประสงค์เพิ่มเติม 13,505 ราย
- เขตสุขภาพที่ 5 (กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ) ฉีดวัคซีนไปแล้ว 233,655 ราย แจ้งความประสงค์เพิ่มเติม 25,159 ราย
- เขตสุขภาพที่ 6 (ฉะเชิงทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง) ฉีดวัคซีนไปแล้ว 299,851 ราย แจ้งความประสงค์เพิ่มเติม 53,771ราย
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนให้นีกเรียนทั่วประเทศนั้น ถือว่ามีความก้าวหน้าค่อนข้างมาก ซึ่งทางสธ.มั่นใจว่าในจำนวนนักเรียนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไปแล้วนั้น จะทำให้สามารถเปิดเรียนในรูปแบบ Onsite ได้ในวันที่ 1 พ.ย. 64 ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนการจัดสรรวัคซีนเข็มที่ 2 ให้แก่นักเรียนนั้น สธ.อยู่ระหว่างการบริหาจัดการ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 64 สธ.ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก 1.5 ล้านโดส ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะเน้นการจัดสรรให้แก่นักเรียนก่อนเป็นอันดับแรก