น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 6 รวม 6 จังหวัด จำนวน 838 โครงการ กรอบวงเงิน 1,942 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ตามบัญชีท้าย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 พร้อมทั้งให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค.65
โดย 6 จังหวัดที่ได้รับอนุมัติงบประมาณครั้งนี้ ประกอบด้วย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สกลนคร ชัยนาท ราชบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด 834 โครงการ แยกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มโครงการพัฒนาสินค้าท่องเที่ยว บริการและการค้า 21 โครงการ 2.กลุ่มโครงการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร 21 โครงการ 3.โครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน 13 โครงการ และ 4.โครงการที่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชน 779 โครงการ
สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับนั้น จะก่อให้เกิดการจ้างงาน 16,836 คน มีผู้ได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 1,356,370 คน ไม่น้อยกว่า 102,723 ครัวเรือน รวมถึงช่วยยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า ทักษะและความรู้ในการประกอบอาชีพ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหมู่บ้านและชุมชน
ทั้งนี้ เมื่อรวมผลการพิจารณากลั่นกรองโครงการตั้งแต่ครั้งที่ 1-6 ทำให้มีจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว 76 จังหวัด รวม 9,350 โครงการ มีเงินเข้าหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 21,847.23 ล้านบาท