ผบ.ฉก.ร.7 คนใหม่ ชี้แจงกรณีการสู้รบในเขตพม่า ตรงข้ามพื้นที่ บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเพียงแค่ การยิงปืน ค.แจ้งเตือนของฝ่ายพม่าต่อ KNU เท่านั้น ไม่ได้มีการสู้รบอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ส่วนกำลังทหารจาก ฉก.ร.7 ที่ส่งไปพื้นที่บ้านแม่สามแลบเมื่อเช้าวันนี้ ( 7เม.ย.64) เป็นการส่งไปช่วยดูแลผู้หนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา ด้าน ผวจ.เผยการบริจาคสิ่งของให้ผู้ลี้ภัย สามารถช่วยได้แต่ต้องผ่านหน่วยงานกาชาดระดับอำเภอเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำไปมอบให้เองเนื่องจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 พ.อ.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผบ.ฉก.ร.7 ( คนใหม่ ) ที่เพิ่งเดินทางมารับหน้าที่ ได้ แจ้งต่อสื่อมวลชน กรณีข่าวการสู้รบของทหารพม่ากับ ทหารกะเหรี่ยงอิสระ KNU ว่า ขอชี้แจงข่าวที่ออกไปไม่ตรงกับความเป็นจริง ชายแดนไม่มีการปะทะ แต่เป็นยิงแจ้งเตือนกับฝ่ายตรงข้าม และที่ทาง ฉก.ร.7 ได้ส่งกำลังทหารจากหมวดระวังป้องกัน ไปเป็นการส่งไปก่อนแล้ว ไปช่วยดูเรื่องผู้หนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา
จากโครงการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้มีการจัดรายการผู้ว่าราชการและหัวหน้าส่วนราชการ พบปะกับสื่อมวลชน เพื่อดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องต่อประชาชน เนื่องจากสื่อมวลชน สามารถสื่อสารด้วยการใช้ภาษาที่ง่ายต่อการเข้าใจให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ ทาง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า บางครั้งส่วนราชการจะสื่อสารกับประชาชนด้วยถ้อยคำที่เป็นทางการมากเกินไป จนประชาชนเข้าใจไม่ถ่องแท้
นายสิธิชัย จินดาหลวง เปิดเผยในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการพบสื่อมวลชนว่า กรณีการบริจาคสิ่งของเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในเขตพม่า พบว่า ได้มีประชาชนคนไทยจำนวนมาก ได้พากันบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้กับผู้ลี้ภัย เป็นจำนวนมาก และมีการเปิดรับบริจาคจากหลายหน่วยงานทั้งองค์กรภาคเอกชน และ ประชาชน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทางจังหวัดขอชี้แจงว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ในพม่ามีการสู้รบกันอยู่และมีการหลบหนีเข้ามาในไทยจริง แต่พื้นที่ตามแนวชายแดน ดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยความมั่นคง ทั้งทหารจาก ฉก.ร.7 และ ทหารพราน จาก กรมทหารพรานที่ 36 ที่รับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดน เมื่อมีการสู้รบกันก็มีราษฎรจากฝั่งพม่าหนีมาหลบภัยชั่วคราวในไทย โดยเฉพาะเวลากลางคืนก็จะขอมาหลบภัยในไทย และกลางวันก็กลับเข้าไปในฝั่งพม่า โดยจุดนี้ การอพยพยังไม่ถึงจุดที่จะให้ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เข้าไปดูแล
การที่จะนำสิ่งของมาบริจาค โดยนำไปให้ผู้ลี้ภัยด้วยตนเอง จะต้องผ่านการพิจารณาของหน่วยทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ตามแนวชายแดนไม่ปลอดภัย ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงขอประกาศให้ผู้ที่รับบริจาคสิ่งของเพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัย จะต้องนำสิ่งของที่ได้รับบริจาค ไปส่งมอบให้กับทางทางกิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง กิ่งกาชาดอำเภอขุนยวม และกิ่งกาชาดอำเภอปาย เพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่ของเหล่ากาชาดจะได้นำสิ่งของเหล่านั้น ไปส่งมอบให้กับผู้ลี้ภัย โดยผ่านเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ ที่จะเป็นผู้ลำเลียงสิ่งของบริจาคไปให้ผู้ลี้ภัย
ในส่วนของสถานการณ์ตามแนวชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ทหารพม่า ได้ส่งกำลังจำนวนหลายร้อยนาย ข้ามแม่สาละวิน ที่ท่าสบเต็ง บ้านหัวเมือง จ.ลางเคือ รัฐฉาน สหภาพเมียนมา โดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อเตรียมการโจมตีฐานที่มั่น กองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ SSA ฐานกองบัญชาการดอยไตแลง ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านปางคาม ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน และอีกด้านหนึ่ง กลุ่มสมาชิกกองกำลังไทยใหญ่ หรือกองทัพกู้ชาติแห่งรัฐฉาน SSA ได้มีการเผยแพร่ภาพเครื่องบินรบของทหารพม่า โดยอ้างว่า ได้มีการส่งมาประจำที่สนามบินเมืองน้ำจ๋าง จำนวน 2 ลำ และ สนามบินเมืองเชียงตุง จำนวน 2 ลำ ซึ่งเครื่องบินดังกล่าว เป็นแบบเดียวกันที่เคยบินไปโจมตีฐานที่มั่นของกะเหรี่ยง KNU มาแล้ว ส่งผลให้เกิดความวิตกในกลุ่มทหารSSA/Shan State Army . และรวมไปถึงประชาชนในฝั่งไทย ซึ่งเรื่องนี้ พบว่า ข่าวดังกล่าว ยังไม่แน่ชัดและเป็นแค่การแพร่ในสื่อโซเชียล เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ หน่วยงานความมั่นคง ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว